พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu)
พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ ถูกสร้างขึ้น ในปีค.ศ. 1992 บนพื้นที่บริสุทธิ์ของสุสาน และปีต่อมาก็ถูกทำให้เป็นสวนสาธารณะ กลุ่มนิกายที่พูดถึงนี้ ก่อตั้งโดยพระสงฆ์ชินรัน (ตั้งแต่ปีค.ศ.1173 – 1262) ที่เป็นกลุ่มนิกายมหายาน ในปีค.ศ. 1247 ด้วยเหตุที่พระสงฆ์ชินรันมีความประสงค์ จะตั้งแหล่งเผยแพร่ศาสนาในแถบคันโตที่จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ทำให้ภายในตัวเมืองยังมีกลิ่นอายของวัดและเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับศาสนาหลงเหลืออยู่มาก และอุชิคุ ก็เป็นหนึ่งในหลายๆที่ที่ถูกยกตัวอย่างมาพูดถึง
เมื่อเข้าไปยังภายในพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ในแต่ละชั้นจะสามารถสัมผัสบรรยากาศของศาสนาพุทธ 「แสงสว่างของโลก」แสงซึ่งส่องผ่านบริเวณใจกลางห้องโถงไปยังพระพุทธที่รูปเรียงรายอยู่นับไม่ถ้วน [เรนเกะโซ เซไก(Rengezo Sekai) ] บริเวณชั้นบนสามารถมองเห็นพื้นที่ในเขตคันโต และในวันที่อากาศดีคุณจะสามารถเห็นโตเกียวสกายทรีและภูเขาไฟฟูจิ
ภายในพระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ [โลกแห่งแสงสว่าง] ภาพวาดในจิตนาการของดินแดนสุขาวดี,「โลกของสติปัญญาและคุณธรรม」การจัดแสดงพระสูตร , พระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ระหว่าง [ภูเขาริวชุเซ็น(Ryujusen) ] และนอกจากนี้ยังมี [ดินแดนสุขาวดี] ที่มีพระพุทธรูปจิ๋วกว่า 3,300 องค์เรียงรายอยู่ล้อมรอบ ล้วนเป็นพื้นที่ศักสิทธิ์ที่ไม่ควรพลาด
สถานที่หลายแห่งที่สามารถเดินชมได้ ภายในสวน มีทั้ง สวนสัตว์ขนาดเล็กที่สามารถเล่นกับกระรอกและกระต่ายได้ สวนดอกไม้ ที่กว้างถึง 2 หมื่นตร.ม. ร้านขายของฝากตรงบริเวณทางเข้าวัด หรือกระทั่งที่รับประทานอาหาร หลังจากเที่ยวชมพระพุทธรูปไดบุทสึแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับครอบครัวของคุณได้อีกด้วย
พิธีการทางศาสนาที่ส่งพระพุทธเจ้าเรียกว่า “มันโทเอะ (Mantoue)” ถูกจัดขึ้นในวันที่15 สิงหาคมของทุกปี โคมไฟเรียงรายเป็นจำนวนมาก แสงเทียนที่ถูกจุดขึ้นให้สว่างไสว เป็นบรรยากาศที่ราวกับอยู่ในความฝัน เมื่อดอกไม้ไฟสำหรับสักการะ (Honohanabi) ถูกจุดขึ้น จะปรากฎเป็นภาพที่ตัดกันระหว่างดอกไม้ไฟหลากสีกับพระพุทธรูปไดบุทสึ เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด (แต่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ อาจมีการเปลี่ยนแปลง) นอกจากนี้เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง ดอกคอสมอสจะเบ่งบาน เป็นจุดชมดอกไม้ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน